spirit, Anonymous


"ในขณะที่เราเลื่อนหรือยกเลิกบางสิ่งออกไป ชีวิตก็ได้ดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน"
- Anonymous

อย่าได้รีรอที่จะประสบความสำเร็จ จงใช้ความพยายามและอดทนจนกว่าจะสำเร็จ เพราะบางครั้ง สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะรอคอยเรา #KEEPWALKING

Image from www.deviantart.com

spirit Anonymous



"คุณต้องเอาชนะการฉุดดึงของคนอื่นที่มีต่อคุณให้ได้ เหมือนที่คุณเอาชนะเป้าหมายสูงสุดของตัวเอง"
- Anonymous

อย่ากลัวที่จะเป็นผู้นำ จงเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง แล้วไปให้ถึง คุณก็จะพบกับความสำเร็จที่คู่ควร #KEEPWALKING
Image from wallpapersus.com

หากจิตใจสงบเพียงพอ


หากจิตใจสงบเพียงพอ ก็จะเห็นต่างจากเดิม เปรียบเหมือนผู้ที่กำลังวิ่ง ไม่อาจเห็นอะไรๆได้ชัดเจนเท่าผู้ที่กำลังนั่งอยู่นิ่ง

หาก...



ข้อปฎิบัติของทางไม่เหลือกรรม


การเจตนา เป็นกรรม
เหตุเกิดของกรรม มีเพราะการเกิดความรู้สึก
การดับแห่งกรรม มีได้เพราะการดับของความรู้สึก
มรรคมีองค์ 8 นี้เอง เป็น ...ข้อปฎิบัติของทางไม่เหลือกรรม

โศกเศร้าเกิดจากรัก


ธรรมกับชีวิต
  • ความโศกเศร้า ย่อมเกิดมาจากความรัก
  • ความกลัว ย่อมเกิดมาจากความรัก
  • เมื่อหนีพ้นจากความรักแล้ว
  • ความโศกเศร้าย่อมไม่มี
  • แล้วความกลัวจะมีมาแต่ไหนเล่า?

หากจะกลัวความโศกเศร้า ก็น่าจะไปบวชโน้น เพราะความโศกเศร้า มีเป็นธรรมดาในชีวิต


เครื่องเจาะแทงกิเลส


*ผู้เขียนอ่านเอง ก็งงเอง เลยเขียนให้เข้าใจง่ายๆยังไม่ได้

ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ
...
ปุณณะ ! รูปที่เห็นด้วยตาก็ดี, เสียงที่ฟังด้วยหูก็ดี,
กลิ่นที่ดมด้วยจมูกก็ดี, รสที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะที่
สัมผัสด้วยกายก็ดี, ธรรมารมณ์ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี อันเป็น
สิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ยวนตายวนใจ
ให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้ง
แห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่; ภิกษุย่อมไม่เพลิดเพลิน
ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์มีรูปเป็นต้นนั้น.
เมื่อภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก
ซึ่งอารมณ์ มีรูปเป็นต้นนั้นอยู่, นันทิ (ความเพลิน)
ย่อมดับไป.
...
ปุณณะ ! เรากล่าวว่า “ความดับไม่มีเหลือของทุกข์
มีได้ เพราะความดับไม่เหลือของความเพลิน” ดังนี้แล.
...

ผู้นับถือศาสนาฯที่ดี (5)



ผู้นับถือศาสนาฯที่ดี (5)
  1. มีศรัทธา
  2. มีศีล
  3. เชื่อกรรม หลีกเลี่ยงการเชื่อมงคล*
  4. เว้นการแสวงหาความดีนอกศาสนา*
  5. สนับสนุนศาสนาฯ
*อันนี้ผู้เขียนแปลเอง อาจแปลผิดบ้าง ก็ดูๆต้นฉนับที่อยู่ในรูปด้านบนน่ะครับ

สมาธิภาวนา


(สมาธิภาวนาคือ...คลิ๊กที่นี้)

เมื่อทำสมาธิภาวนาให้มากแล้ว เราจะรู้ว่าเรากำลังมีความรู้สึกสุขหรือทุกข์อยู่


ความฉิบหาย ๑๑ อย่าง


บาลีสยามรัฐ เล่ม ๒๔

[๒๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย
ติเตียนพระอริยเจ้า นี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ที่ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๑ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง

ความฉิบหาย ๑๑ อย่างเป็นไฉน คือ

ไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ ๑
เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ๑
สัทธรรมของภิกษุนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว ๑
เป็นผู้เข้าใจว่าได้บรรลุในสัทธรรม ๑
เป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ๑
ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑
บอกลาสิกขาเวียนมาเพื่อหินภาพ ๑
ถูกต้องโรคอย่างหนัก ๑
ย่อมถึงความเป็นบ้า คือ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต ๑
เป็นผู้หลงใหลทำกาละ ๑
เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย
ติเตียนพระอริยเจ้า ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส
ที่ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๑ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งนี้ ฯ

สิ่งที่จะทำให้ก้าวหน้า (5)



สิ่งที่จะทำให้ก้าวหน้า 5

  1. รู้จักเหตุ
  2. รู้จักผล
  3. รู้จักประมาณ
  4. รู้จักจังหวะ (Time)
  5. รู้จักองค์กร(Company)


*ในบางช่วงบางตอนของชีวิตเรา อาจตกต่ำลง แต่ไม่ควรลืมว่า ชีวิต ตกต่ำลงมาได้ มันก็ขึนไปอยู่ที่สูงได้เช่นกัน อาจต้องรอจังหวะ หรือโอกาส ที่เหมาะสม สักวัน มันจำสำเร็จ...

ผู้มีศรัทธา ย่อมไม่สงสัย


สารีบุตร : ชื่อของพระ

ผู้ใด ที่มีความเชื่อ และศรัทธาอย่างเต็มเปรี่ยมแล้ว
ย่อมไม่สงสัย หรือลังเลในคำสอน

*ควรพิจารณาก่อนจะเชื่อหรือศรัทธา

ตา หู จมุูก ลิ้น กาย ใจ ล้วนเป็นกรรมเก่า


ตา หู จมุูก ลิ้น กาย ใจ ล้วนเป็นกรรมเก่า

เรียกว่า "ผู้อยู่อย่างผู้เดียว"


ผู่ไม่หลงไหลในอารมณ์ เรียกว่า "ผู้อยู่อย่างผู้เดียว"
ผู้ไม่มีความอยากต่างๆเรียกว่า "ผู้อยู่อย่างผู้เดียว"

*มิคชาละ คือ ชื่อพระ

วิญญาณ อาศัยอยู่ในร่างกาย


วิญญาณ อาศัยอยู่ในร่างกาย
ความเพลิน อาศัยอยู่ในอารมณ์

เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี


เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี
เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี
เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป.

อยากรู้ ใน...(5)



ความหมายรู้ ในรูป มีภาวะเป็นที่ยินดีในโลก
ความหมายรู้ ในเสียง มีภาวะเป็นที่ยินดีในโลก
ความหมายรู้ ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่ยินดีในโลก
ความหมายรู้ ในรส มีภาวะเป็นที่ยินดีในโลก
ความหมายรู้ ใน* มีภาวะเป็นที่ยินดีในโลก

ความอยาก (ตัญหา) คือ

ความอยาก 3 อย่าง
  1. ความอยากหรือไม่อยาก ใน สัมผัสทั้ง 5
  2. ความอยากทางจิตใจ เมื่อได้สิ่งนั้นมาแล้ว ไม่ต้องการให้มันเปลี่ยนแปลง
  3. ความไม่อยากทางจิต ความอยากดับสูญ
----------------------------------------------------------------------------
ความอยาก 6 หมวด
  1. อยากเห็น
  2. อยากได้ยินเสียง
  3. อยากได้กลิ่น
  4. อยากได้รส
  5. อยากรู้สึกทางกายสัมผัส
  6. อยากจะนึกคิด

พระโคดมเปรียบเหมือนบุรุษ



ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ เปรียบเหมือนบุรุษ
จับบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังจะตกลงสู่เหว
ดึงผมลากขึ้นมาให้ยืนอยู่บนพื้นด้านบน

เหตุให้เกิดทุกข์



"ความอยาก" ทำให้เกิดใหม่เป็นปรกติ เป็นไปด้วยความกำหนัด เพราะความเพลิน
มักเพลินยิ่งในอารมณ์นั้นๆ
นี้คือ

  • ความอยากทางร่างกาย
  • ความอยากทางจิตใจ
  • ความไม่อยากทางจิต

ชายเทวดา อยู่ร่วมกับ หญิงเทวดา



ชายและหญิง

  • เว้นจากการทำร้ายสิ่งมีชีวิต
  • เว้นจากการขโมย
  • เว้นจากการนอกใจ
  • เว้นจากการโกหก
  • เว้นจากการดื่มสุราฯ
  • ไม่เป็นคนทุศีล 
  • ไม่มีบาปธรรม
  • ไม่มีใจอันมลทิน คือความตระหนี่ครอบงำ
  • ไม่ด่า ไม่บริภาษสมณพราหมณ์ อยู่ครองเรือน

ชายเทวดา อยู่ร่วมกับ หญิงเทวดา อย่างนี้แล.

สามีควรปฎิบัติต่อภรรยา



สามีควรปฎิบัติ 5 อย่างคือ

1. ให้เกียรติ
2.ไม่ดูถูก
3.ไม่นอกใจ
4.ให้ความเป็นใหญ่ในหน้าที่
5.ให้เครื่องประดับ

การประชุมกันแห่งสาวกฯ



พุทธวจน วันที่มีการประชุมกันของสงฆ์สาวกของพระศาสดาฯ
(วันสาวกานัง สันนิปาโต)
  • พระนามว่าวิปัสสี
  • พระนามว่าสิขี
  • พระนามว่าเวสสภู
  • พระนามว่ากกุสันธะ
  • พระนามว่าโกนาคมนะ
  • พระนามว่ากัสสปะ 
  • พระนามว่า
----------------------------------------------------------------------------
[๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย การประชุมกันแห่งสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าวิปัสสี ได้มี 3 ครั้ง
  1. ครั้งหนึ่ง มีพระสาวก ประชุมกันเป็นจำนวนภิกษ 6,800,000 รูป
  2. อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุม กันเป็นจำนวนภิกษุ 100,000 รูป
  3. อีกครั้งหนึ่ มีพระสาวกประชุมกันเป็นจำนวนภิกษุ 80,000 รูป
***
----------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การประชุมกันแห่งพระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าสิขี ได้มี 3 ครั้ง
  1. ครั้งหนึ่งมีพระสาวกประชุมกันเป็นจำนวนภิกษุ 100,000 รูป
  2. อีกครั้งหนึ่ มีพระสาวกประชุมกันเป็นจำนวนภิกษุ 80,000 รูป
  3. อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็นจำนวนภิกษุ 70,000 รูป
***
----------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การประชุมกันแห่งพระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าเวสสภู ได้มี 3 ครั้ง
  1. ครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็นจำนวนภิกษุ 80,000 รูป
  2. อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็นจำนวนภิกษุ 70,000 รูป
  3. อีกครั้งหนึ่ง มีพระสาวกประชุมกันเป็นจำนวนภิกษุ 60,000 รูป
***
----------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การประชุมกันแห่งพระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่ากกุสันธะ ได้มี 1 ครั้ง
  1. มีจำนวนภิกษุ 40,000 รูป
***
----------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การประชุมกัน แห่งพระสาวกขอพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าโกนาคมนะ ได้มี 1 ครั้ง
  1. มีจำนวนภิกษ 30,000 รูป
***
----------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การประชุมกันแห่พระสาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่ากัสสปะ ได้มี 1 ครั้ง
  1. จำนวน ภิกษุ 20,000 รูป
***
----------------------------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การประชุมกันแห่งสาวกของเราในบัดนี้ ได้มี 1 ครั้ง
  1. มีจำนวน ภิกษุ 1,250 รูป 
***
----------------------------------------------------------------------------
*** : สาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งได้ประชุมกันนี้ ล้วนเป็นพระขีณาสพทั้งสิ้น
สุตตันตะปิฏก เล่ม ๒

ศีลและปัญญา



ศีล ทำให้ปัญญาบริสุทธิ์
และปัญญาก็ทำให้ศีลบริสุทธิ์เช่นกัน

ศีลอยู่ที่ใด ปัญญาอยู่ที่นั้น
ปัญญาอยู่ที่ใด ศีลอยู่ที่นั้น

ศีลและปัญญา เป็นของเลิศในโลก

เหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ


ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก
เหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทาง ส่องไฟในที่มืด
เพื่อให้ คนมีตาดี จักได้เห็นรูป ดังนี้

เนื้อคู่ที่จะได้พบกัน


ภิกษุทั้งหลาย ! ถ้าภรรยาและสามีทั้งสอง พึงหวังพบกันและกัน
ทั้งในปัจจุบัน และในสัมปรายภพ ทั้งสองเทียว
พึงเป็นผู้ มีศรัทธาเสมอกัน
มีศีลเสมอกัน
มีจาคะเสมอกัน
มีปัญญาเสมอกัน
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้น ย่อมได้พบกันและกันทั้งในปัจจุบัน
ทั้งในสัมปรายภพ ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา
รู้ความประสงค์ของผู้ขอ มีความสำรวมเป็นอยู่โดยธรรม
เจรจาคำที่น่ารักแก่กันและกัน ย่อมมีความเจริญรุ่งเรืองมาก
มีความผาสุกทั้งสองฝ่าย มีศีลเสมอกัน รักใคร่กันมาก
ไม่มีใจร้ายต่อกัน ประพฤติธรรมในโลกนี้แล้ว
ทั้งสองเป็นผู้มีศีล และวัตร (การปฏิบัติ) เสมอกัน
ย่อมเป็นผู้เสวยกามารมณ์ เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ในเทวโลก.
---------------

บทความแรก

ไม่มีสิ่งใดบนบทความแรก แค่ลองโพสดูเฉยๆ